การถล่มโจมตียูเครนด้วยโดรนครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น มิโคลา โอเลชชุก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครนระบุผ่านเทเลแกรมว่า เป้าหมายที่รัสเซียมุ่งโจมตีในครั้งนี้คือกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ตลอดช่วงเช้ามืดจนถึงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา เสียงไซเรนเตือนภัยดังไปทั่วกรุงเคียฟตั้งแต่เวลา 02.30 น. ทั่วท้องฟ้ากรุงเคียฟสาดส่องไปด้วยแสงไฟที่หน่วยป้องกันภัยทางอากาศใช้ส่องโดรนที่มุ่งเข้ามาโจมตี

ราคาทองวันนี้ในประเทศไม่เปลี่ยนแปลง ต่างประเทศทะลุ 2,000 ดอลลาร์ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 "รัสเซีย" ส่งโดรนถล่ม "ยูเครน" ระลอกใหญ่ที่สุด

ราคาทองวันนี้ ขึ้น 150 บาท นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุน

เป็นเวลาราว 6 ชั่วโมงที่เสียงระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงสกัดโดรนและเสียงระเบิดของโดรนดังสนั่นไปทั่ว จนกระทั่งเวลา 9.00 น. ทางการยูเครนจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด โดรนที่รัสเซียใช้ในการโจมตีครั้งนี้คือโดรนชาเฮด โดรนพลีชีพสัญชาติอิหร่านร่อนเข้ามาโจมตียังกรุงเคียฟทั้งหมด 75 ลำ

โดยมุ่งมาจากทางทิศเหนือและทิศตะวันออก ถือเป็นการโจมตีกรุงเคียฟระลอกใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มต้นทำสงครามรุกรานยูเครน ส่วนจุดประสงค์ของการโจมตีนั้นคาดว่าเป็นไปเพื่อบั่นทอนระบบป้องกันภัยทางอากาศให้อ่อนกำลังลง

กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า สามารถสกัดโดรนได้ทั้งหมด 74 ลำ หมายความว่ามีโดรนเพียง 1 ลำเท่านั้นที่หลุดรอดจากการโจมตีสกัดไป อย่างไรก็ดีเศษซากจากการระเบิดของโดรนยังคงมีอานุภาพที่จะสร้างความเสียหายได้

วิทาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟระบุผ่านเทเลแกรมว่า การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 5 รายรวมถึงเด็กหญิงอายุ 11 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตยังไม่มีรายงาน ขณะที่มีอาคารหลายหลัง ซึ่งรวมถึงอาคารที่อยู่อาศัยและโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งได้รับความเสียหาย ประชาชนรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเล่าเหตุการณ์ว่า การโจมตีเป็นไปอย่างรุนแรงมากระดับที่ทำให้ประตูทางเข้าอาคารที่ทำจากเหล็กระเบิดและกระเด็นออก ซึ่งก็มีโอกาสที่เธออาจถูกประตูหรือวัตถุอื่นๆ ที่กระเด็นไปทั่วทับ

นอกเหนือจากความเสียหายต่ออาคารแล้ว กระทรวงพลังงานของยูเครนยังเปิดเผยอีกว่า การโจมตีกรุงเคียฟครั้งล่าสุดส่งผลให้กระแสไฟฟ้าถูกตัด จนมีประชาชนราว 17,000 รายต้องตกอยู่ในสภาวะที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ก่อนที่จะมีการเร่งซ่อมระบบจนขณะนี้ไฟฟ้าในกรุงเคียฟสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติแล้ว

ท่ามกลางภัยจากการโจมตีทางอากาศที่มีแนวโน้มจะกลับมารุนแรงอีกครั้ง ในระหว่างแถลงการร่วมหลังการประชุม “GRAIN FROM uKRAINE” การประชุมระหว่างประเทศด้านความมั่นคงทางอาหารที่กรุงเคียฟ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีผู้นำยูเครนจึงออกมาระบุว่า การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นชัดว่า กรุงเคียฟยังขาดแคลนระบบป้องกันภัยทางอากาศอยู่

ขณะที่เมืองอื่นๆ ในยูเครนโดยเฉพาะเมืองท่าบริเวณทะเลดำที่ใช้ในการส่งออกธัญพืชประสบปัญหาอย่างมากด้านการป้องกันภัยทางอากาศ เมืองหลวงของยูเครนถูกโจมตีถี่ขึ้นนับตั้งแต่เข้าเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว

นี่คือสิ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น เพราะเมื่อฤดูหนาวปีที่ผ่านมา รัสเซียก็ใช้วิธีการเดียวกัน นั่นคือมุ่งโจมตีทางอากาศไปยังโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานต่างๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น โครงข่ายผลิตกระแสไฟฟ้าและพลังงานเพื่อทำลายขวัญกำลังใจชาวยูเครนและบั่นทอนความสามารถในการสู้รบ อย่างไรก็ตาม การโจมตีเมื่อปีที่แล้วเริ่มหนักตั้งแต่เดือนตุลาคม ขณะที่ในปีนี้เพิ่งจะเริ่มเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

โอเล็กซี ดานิลอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติยูเครนได้ออกมาเปิดเผยต่อสำนักข่าว The Guardian ว่า ที่รัสเซียชะลอการโจมตีในปีนี้ก็เพื่อรอให้อุณหภูมิในยูเครนลดต่ำลงไปกว่า 0 องศา

ทางการยูเครนระบุด้วยว่า ยได้เตรียมพร้อมรับมือสำหรับการโจมตีที่จะเกิดขึ้นแล้ว โดยมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่พันธมิตรตะวันตกจัดหามาให้ แม้ว่าจะยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับการโจมตีทางอากาศได้ทั่วประเทศก็ตาม

ส่วนยูเครเนอร์โก ผู้ให้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนได้เตรียมมาตรการรับมือในกรณีที่กระแสไฟฟ้าถูกตัดจากการโจมตีแล้ว โดยได้มีการเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแล้วทั่วประเทศ

ขณะที่ DTEK บริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าเอกชนของยูเครนระบุต่อ CNN ว่าได้ใช้เวลาเจ็ดเดือนที่ผ่านมาในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานผลิตไฟฟ้า โดยพยายามเพิ่มกำลังการผลิตและเสริมการป้องกันบริเวณโรงงาน

By admin