ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ไรอัน กิ๊กส์ มีชื่อเป็นตัวสำรองหลังจากไม่ได้ลงเล่นใน 2 นัดหลังสุดเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า ในขณะที่อลัน สมิธ จะลงเล่นได้อีกครั้งหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าและพ้นโทษห้ามแข่งแล้ว ส่วนริโอ เฟอร์ดินานด์ ลงเล่นไม่ได้เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง
ฟูแล่ม จะให้ไมเคิล บราวน์ ลงประเดิมสนามเป็นนัดแรกให้กับทีมที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากย้ายทีมมาจากสเปอร์ส ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ โดยคาดว่าบราวน์ จะลงเล่นแทนซิลแว็ง เล็กวินสกี้ ซึ่งได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม โฮเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, มิเกล ซิลแวสตร์, ปาทริซ เอวร่า, ปาร์ค จีซุง, คีแรน ริชาร์ดสัน, อลัน สมิธ, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย, ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่, เคราร์ด ปิเก้, โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์
ฟูแล่ม อันต์ติ นีมี่, เลียม โรซีเนียร์, คาร์ลอส โบคาเนกร้า, แซท ไนท์, เวย์น บริดจ์, สตีด มาลบร็องก์, ไมเคิล บราวน์, ไซม่อน เอลเลียตต์, หลุยส์ บัว มอร์เต้, ไบรอัน แม็คไบรด์, ไฮดาร์ เฮลกูสัน, โทนี่ วอร์เนอร์, โทมัสซ์ ราดซินสกี้, คอลลินส์ จอห์น, อแล็ง โกม่า, นิคลาส เยนเซ่น
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเจ็บแค้นจากการพ่ายแพ้ในลีกทั้ง 2 นัดให้กับแบล็คเบิร์น โดยแบล็คเบิร์น ชนะไปได้ 4-3 ที่สนามอีวูด พาร์ค เมื่อคืนวันพุธ ซึ่งริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้รับใบแดงในนัดนี้ด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งตามหลังเชลซี จ่าฝูงอยู่ 15 คะแนน จะลงเล่นในวันเสาร์พบกับฟูแล่ม สโมสรซึ่งมีฟอร์มการเล่นในเกมเยือนย่ำแย่ที่สุดในพรีเมียร์ชิพ ที่สำคัญกว่านั้นทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มี 3 คะแนนมากกว่าลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 3 ซึ่งลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 2 นัด ผู้จัดการทีมปิศาจแดง ต้องการคะแนนเป็นอย่างยิ่งในนัดนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่ทีมจากถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ จะแซงขึ้นไปคว้าอันดับที่ 2 ซึ่งจะผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ แม้ว่าลิเวอร์พูล จะต้องคว้า 3 คะแนนเต็มในเกมเยือนสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันอาทิตย์ เพื่อให้มีโอกาสนั้น
ปิศาจแดง กำลังจะทำสถิติเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ชิพ 5 นัดติดต่อกันที่โรงละครแห่งความฝัน หลังจากเอาชนะวีแกน 4-0, เวสต์ บรอม 3-0, โบลตัน 4-1 และลิเวอร์พูล 1-0 นอกจากนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะทำสถิติชนะในบ้าน 7 นัดรวดในทุกรายการ และไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 16 ในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ที่แพ้ให้กับแบล็คเบิร์น เมื่อวันที่ 24 กันยายน พวกเขาชนะมาแล้ว 11 นัดและเสมอ 4 นัดในเกมเหย้า
รุด ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์ ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะ 3-2 ได้สำเร็จที่สนามคราเวน ค็อตเตจ เมื่อเดือนตุลาคม ทำให้ปิศาจแดง เพิ่มสถิติไม่แพ้ให้กับฟูแล่ม เป็น 5 นัดซึ่งเป็นเกมพรีเมียร์ชิพ 4 นัด โดยพวกเขาชนะใน 2 นัดหลังสุด ชัยชนะนัดที่ 3 จะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะฟูแล่ม ในลีกทั้ง 2 นัดเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ และครั้งที่ 2 ในพรีเมียร์ชิพ
ฟูแล่ม เคยทำผลงานเหลือเชื่อ 1-2 ครั้งในการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอดีต และมาเยือนสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างมีกำลังใจจากชัยชนะในช่วงท้ายเกมที่พบกับสเปอร์ส แต่พวกเขาเป็นเพียงสโมสรเดียวที่ไม่เคยชนะเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ ที่จริงแล้ว 26 คะแนนจาก 29 คะแนนของพวกเขาในลีกได้มาจากการลงเล่นในสนามคราเวน ค็อตเตจ นอกจากนี้ฟูแล่ม จะต้องมีสมาธิไปจนถึงเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้น พวกเขาเสียไป 4 ประตูในลีกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในฤดูกาลนี้ ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ 4 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
3 คะแนนของฟูแล่ม ในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพมาจากการเสมอกับนิวคาสเซิล, ชาร์ลตัน และเวสต์ บรอม การเสมอแบบไร้สกอร์ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เป็นนัดสุดท้ายที่พวกเขาเก็บคะแนนได้ในเกมลีกนอกบ้าน หลังจากนั้นก็แพ้ให้กับเบอร์มิ่งแฮม, เชลซี, ปอร์ทสมัธ และเวสต์ แฮม
ประตูในครึ่งแรกจากโรนัลโด้ เป็นความแตกต่างระหว่าง 2 สโมสรในการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วในเดือนมีนาคม ฟูแล่ม เคยชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ครั้งเดียวในพรีเมียร์ชิพ โดยชนะไป 3-1 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2003 ซึ่งสตีด มาลบร็องก์ เป็นตัวทีเด็ดในนัดนั้น นักเตะชาวฝรั่งเศสทำ 1 ประตูและจ่ายให้ 1 ประตู ในเกมที่ฟูแล่ม เก็บ 3 คะแนนเต็มที่โรงละครแห่งความฝัน ได้เพียงครั้งเดียวในรอบ 43 ปี
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อยู่อันดับที่ 2 มี 48 คะแนน
ชนะ 9 นัดจากเกมพรีเมียร์ชิพ 14 นัดหลังสุด
แพ้ 2 นัดจากเกมลีก 3 นัดหลังสุด
การเสมอแบบไร้สกอร์ในเกมเยือนอาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 3 มกราคม เป็นเพียงนัดเดียวในเกมลีก 19 นัดที่ทำประตูไม่ได้นับตั้งแต่เกมพรีเมียร์ชิพอีกเพียงนัดเดียวที่เสมอแบบไร้สกอร์ในเกมเยือนลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 18 กันยายน
แบล็คเบิร์น (2 นัด), มิดเดิ้ลสโบรซ์ และแมนฯ ซิตี้ เป็นสโมสรที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในลีกฤดูกาลนี้
ไม่เสียประตู 5 นัดจากเกมพรีเมียร์ชิพ 9 นัด
อันตรายที่สุดในช่วง 15 นาทีก่อนและหลังพักครึ่งเวลา ซึ่ง 17 ประตูจากทั้งหมด 45 ประตูของพวกเขาทำได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
ชนะ 6 นัดจากเกมลีก 7 นัดหลังสุดที่ลงเล่นในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ชนะ 6 นัดและเสมอ 2 นัดในเกมเหย้าในลีกนับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ครั้งเดียวที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด (แพ้แบล็คเบิร์น 1-2) เมื่อวันที่ 24 กันยายน
แพ้เพียงนัดเดียวจากเกมเหย้าในพรีเมียร์ชิพ 11 นัด
ฟูแล่ม
อยู่อันดับที่ 13 มี 29 คะแนน
เก็บคะแนนในเกมเหย้าได้มากกว่าเกมเยือน 23 คะแนน ถือเป็นช่วงห่างที่มากที่สุดในพรีเมียร์ชิพ
เสียไป 4 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ทำได้ 12 ประตูในช่วงครึ่งชั่วโมงของเกมลีก
ผ่านไปแล้ว 14 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่ชนะมากกว่า 1 ประตู (เกมเหย้าชนะลิเวอร์พูล 2-0 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม)
ผ่านไปแล้ว 21 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่แพ้มากกว่า 1 ประตู (เกมเยือนแพ้อาร์เซน่อล 1-4 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม)
ชนะ 34 นัดจากเกมพรีเมียร์ชิพ 100 นัดนับตั้งแต่คริส โคลแมน เป็นผู้จัดการทีมอย่างถาวร
ไม่ชนะในเกมเยือนในลีก 12 นัดนับตั้งแต่เกมที่ชนะแบล็คเบิร์น 3-1 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2005
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้าเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และหลุยส์ ซาฮา ลงเล่น จะเป็นการพบกับอดีตสโมสรต้นสังกัด
ถ้าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่น จะเป็นการลงเล่น 1 วันก่อนวันคล้ายวันเกิดครบ 21 ปี
รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพที่ทำประตูได้มากที่สุด ทำไปแล้ว 21 ประตูในทุกรายการ เขายังเป็นดาวซัลโวสูงสุดในพรีเมียร์ชิพ ทำไปแล้ว 18 ประตู
ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์ ทำได้รวมกัน 28 ประตูจากทั้งหมดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ 45 ประตูในลีก
มีนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูได้ในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ 12 คน
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้
ฟูแล่ม
ถ้าอแล็ง โกม่า ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 150 ในลีกอังกฤษ (นิวคาสเซิล และฟุแล่ม)
ถ้านิคลาส เยนเซ่น ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 50 ในลีกสูงสุด (แมนฯ ซิตี้ และฟูแล่ม)
ถ้ามอริทซ์ โวลซ์ ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 100 ให้กับสโมสรในอังกฤษ
ถ้าแซท ไนท์ ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 150 ในฟุตบอลอาชีพ
ถ้าโทมัสซ์ ราดซินสกี้ ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 150 ในพรีเมียร์ชิพ (เอฟเวอร์ตัน และฟูแล่ม)
ผลการแข่งขันที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 ฟูแล่ม
วันที่ 19 มีนาคม 2005
ผู้ตัดสิน : แอนดี้ เดอร์โซ่
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : โรนัลโด้ น. 21
ผลการแข่งขันที่พบกันนัดแรกในฤดูกาลนี้
ฟูแล่ม 2 – 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันที่ 1 ตุลาคม 2005
ผู้ตัดสิน : โฮเวิร์ด เวบบ์
ผู้ทำประตูให้ ฟูแล่ม : จอห์น น. 2, เยนเซ่น น. 28
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : ฟาน นิสเตลรอย น. 17 (จุดโทษ), 45, รูนี่ย์ น. 18
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 28 ครั้ง, ฟูแล่ม ชนะ 10 ครั้ง, เสมอ 13 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 5 ครั้ง, ฟูแล่ม ชนะ 1 ครั้ง, เสมอ 3 ครั้ง
สถิติการพบกันในเกมเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 20 ครั้ง, ฟูแล่ม ชนะ 2 ครั้ง, เสมอ 3 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 ครั้ง, ฟูแล่ม ชนะ 1 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
DaKinG